รีวิว : ล้อ OSEOUS : OSEOUS Mountaineer 25 โดย วรวุฒิ กิตติกาญจนกุล
รีวิว : ล้อ OSEOUS : OSEOUS Mountaineer 25 โดย วรวุฒิ กิตติกาญจนกุล
09 มิถุนายน 2559
Oseous รุ่น Mountaineer

ล้อ Oseous(อ่านว่า All-see-us) เกริ่นนำก่อนว่าผมได้รับมอบหมายให้เทสและรีวิวล้อยี่ห้อนี้มานานหลายเดือน ล้อรุ่นที่ได้รับมอบมาให้เทสในช่วงแรกเป็นล้อรุ่น All rounder แต่ยังไม่รู้จะเขียนรีวิวอย่างไรเนื่องจากยังไม่ประทับใจเท่าไหร่ ที่ไม่ชอบคือมันเป็นล้อขอบสูง 38 ที่ไม่เด่นทั้งทางเขา (ไม่เบาพอที่จะเป็นล้อขึ้นเขา) และทางเรียบ (ขอบไม่สูงพอที่จะแอโร่) คือกลางๆ อเนกประสงค์ตามชื่อของมันนั่นเอง



ล้อรุ่น All Rounder ถูกเก็บไว้ในถุงแทบจะไม่ได้เอาออกมาขี่ เว้นแต่จะไปแข่งทีถึงจะเอามาใช้ที
รีวิว Oseous ก็ถูกดองมานานไม่มีอารมณ์จะเขียน (ครั้นจะฝืนเขียนให้ขายไม่ออกเลยก็ยังไงๆอยู่)
จนวันก่อนแข่งงาน TOF R1 ผมได้แวะไปโชว์รูมของ Cycam Bike (ที่อ่อนนุชซอย 7) ครั้งแรก และเห็นล้อรุ่น Mountaineer นี้แขวนอยู่ ดูสเป็คแล้วน่าสนใจมาก เป็นล้อยางฮาร์ฟขอบกว้าง 23 มม. น้ำหนัก 1,240 กรัม คิดว่าสำหรับขึ้นเขาน่าจะดีกว่า All  Rounder ก็คุยกับผู้จัดการบิ๊กว่า ขอล้อคู่นี้ไปใส่แข่งในงาน R1 stage 3-4 ที่เป็นทางเขา ก็ได้รับอนุมัติ



Stage 3 ขึ้นเขาตับเต่า ช่วงต้นผมยิงขึ้นไปคนแรกห่างกลุ่มพอควร แต่กลายเป็นว่าระยะทางมันไกลกว่า
ที่คิด(ไม่ได้ศึกษาเส้นทางมาก่อน) ก็โดนไล่ทันและหม้อน้ำแตกต้องฝืนตามกลุ่ม 2 ขี่จบก็สะบักสะบอมพอควร มา Stage 4 เส้นชัยเป็นสันเขื่อนศรีนครินทร์ ผมขี่เก็บแรงในกลุ่มจนถึงช่วง 4 โลสุดท้ายจึงค่อยยิงหนีกลุ่มขึ้นเนิน กลุ่มมีประมาณ 40 กว่าคน ผมขึ้นไปถึงยอดเนินคนแรก แต่โดนอีกคนไล่มาทันและสปรินท์แซงไป สรุปได้ที่ 2 ถือว่าประทับใจกับประสิทธิภาพล้อคู่นี้พอควร



หลังจากแข่งจบ ล้อก็ถูกเก็บใส่ถุงไม่ได้เอามาใช้อีก จนวันนี้ได้นำมาเทสต์ที่เขาใหญ่ 5:30 ชม. ระยะทาง 140 กิโลเมตร (ขี่คนเดียว) วอร์มแล้วขึ้นฝั่งปราจีนไปลงปากช่อง ขึ้นปากช่องแล้วลงเหวสุวัต กลับขึ้นมาแล้วขี่ลงฝั่งปราจีน จึงคูลดาวน์จบ (ช่วงนี้เขาเขียวถนนเสียเลยไม่ได้ขี่ขึ้นไป)



ฟีลลิ่งของล้อนั้นรู้สึกได้ถึงความสติฟ เวลาออกแรงเร่งทั้งนั่งและยืนกดขอบล้อไม่มีอาการบิดย้วย ให้ความรู้สึกเบาในจังหวะที่กด ช่วงปากช่องกำแพงปูนชันๆผมลองเร่งไปจนหัวใจไปแช่ 180 สักพัก แล้วนั่งปั่นผ่อนหัวใจลงมาเหลือ 165 ก็ยังคงสามารถออกแรงเหยียบคุมวัตต์ไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกต้องเค้นมาก (จังหวะที่ผ่อนนั้นยังคงชันพอควร)



น้ำหนักล้อ 1,240 กรัม ประกอบกับรถที่ใช้ทดสอบแล้วน้ำหนักรวมอยู่ที่ 6.8 กิโลกรัมพอดี ช่วงลงแอ่งกระทะผมฟรีขาลง (ไม่ได้ปั่นส่งหนักๆในตอนเริ่มลง) ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 74.9 กิโลเมตร/ชั่วโมง
(น้าหนักตัวผมอยู่ที่ 69-70) เทียบกับสถิติที่ผมเคยขี่ลงที่ผ่านมาแล้วถือว่าล้อคู่นี้ลื่นไหลและมีน้ำหนักช่วยเหวี่ยงให้ลงเขาได้เร็วพอควร



ข้อดีที่เป็นเอกลักษณ์ของล้อ Oseous คือขอบเบรค  Ceramic Armour ที่ช่วยให้ฟีลลิ่งในการเบรคดีมาก เวลาเบรคไม่รู้สึกจึ๊กๆ สามารถเลียเบรคให้ค่อยๆลดความเร็วได้เนียน และมีกำลังเบรคดี เวลาที่กำแน่นเพื่อจะหยุดรถก็ง่าย, ไม่มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เวลาเบรคจะมีเสียงฟี๊ดๆ เบาๆ (แต่ผมไม่เคยใช้ในสถานการณ์ฝนตกนะครับ ไม่รู้จะมีเสียงดังไหม)



ข้อเสียที่พบคือแกนปลดล้อหลังให้แกนมาสั้นเกินไม่สามารถล๊อคกับเฟรมผมได้ และค่อนข้างฝืดพอควร ส่วนถุงล้อที่ให้มา 1 คู่ดูดีและหนาพอควร ให้อุปกรณ์ผ้าเบรคและฝาปิดเฟืองมา 2 ขนาด ประสิทธิภาพเทียบกับราคาขายถือว่าเป็นล้อขึ้นลงเขาที่ประสิทธิภาพดีคุ้มค่าน่าใช้มากรุ่นนึงครับ



หมายเหตุ ล้อ Mountaineer คู่ที่ใช้ทดสอบใส่ยาง Continental Sprinter(ติดเทปกาว) สูบลม 130 PSI ทั้งหน้าและหลัง จักรยานคันที่ทดสอบคือ Sarto Seta ชุดเกียร์และก้ามเบรคเป็น Dura-Ace 9000 (ผ้าเบรคของ Oseous) จานหน้าสแตนดาร์ด 53-39 เฟืองหลัง 11-32 ครับ