เริ่มมาจากความคลั่งไคล้หลงใหลของ วินเซ็นโซ และคลาวดิโอ แมนโทวานี ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 เขาวางมือจากอาชีพนักปั่นอันทรงเกียรติหลังจากได้รับเหรียญเงินจากการแข่งประเภท Team Track ในการแข่งโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียวในปี 1964 วินเซ็นโซ ฉายา “ผู้ชนะ” เริ่มต้นงานออกแบบและผลิตเบาะหุ้มจักยานสำหรับตัวเองและจักรยานของเพื่อนๆ ส่วนคลาวดิโอ น้องชายของเขาที่อายุอ่อนกว่าหนึ่งปี เลือกเล่นกีฬาฟุตบอล ตำแหน่งมือโกล์ในเอซีมิลาน แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บที่เข่า ทำให้เขาต้องออกจากทีม และหันมาทำงานกับพี่ชายที่บริษัท เพียงช่วงเวลาไม่นานหลังจากนั้น โรงงานของพวกเขากลายเป็นศูนย์รวมของเทคโนโลยีที่ทันสมัยและยอดเยี่ยม แต่ไม่ละเลยการดูแลเอาใจใส่ในรายละเอียด ซึ่งเป็นงานส่วนที่ต้องมีใจรักและหลงใหลในงานดังกล่าว
ตราสินค้าเองก็ยังเป็นประวัติศาสตร์ของวงการจักรยานทั้งในด้านนวัตกรรม จากการประดิษฐ์ Synthetic Chamois เป็นเจ้าแรก ซึ่งนำมาใช้แทนการใช้หนังแท้แบบเดิม ไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในการพิมพ์ การใช้เส้นใยชนิดต่างๆ ทั้งยังได้รับสิทธิบัตรและฟีเจอร์ทางเทคนิคต่างๆ และในด้านการสร้างสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับทีมอาชีพระดับแนวหน้า อาทิ Banesto and Cofidis, Movistar, Colombia และ Astana และการได้ทำงานใกล้ชิดร่วมกับ Indurain, Pantani, Chiappucci, Bugno Fignon, Ullrich, Freire, Vinokurov, Cipollini, Zabel, Val Verde, Rui Costa, Quintana และ Nibali
Moa Sport มีประวัติศาสตร์ที่เป็นของจริง ซึ่งได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาภายใต้แรงกระตุ้นใหม่ คำว่าของจริง เป็นเพราะมีโครงสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จากการเป็นองค์กรธุรกิจแนวดิ่งที่สามารถบริหารจัดการการผลิตได้เองทั้งวัฎจักร เป็นของจริง เพราะสามารถผลิตเส้นใยในแบบที่ต้องการ สามารถใช้งานได้จริง และเป็นของต้นฉบับ ทั้งยังได้รับคำเสนอแนะจากนักกรีฑาและนักปั่นชั้นนำ ซึ่งต่างพิถีพิถันในการคัดสรรสิ่งที่สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพให้แก่พวกเขาได้จริง และเป็นของจริง เพราะผลิตภัณฑ์ถูกผลิตขึ้นมาจากความหลงใหล จากการอุทิศทุ่มเทแรงกายแรงใจของพนักงานที่สามารถนำทักษะของมนุษย์และเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกันอย่างลงตัวของจริงคือคุณค่าที่แท้จริง: คุณสามารถรับรู้ได้จากภายในและจากสายตาอันเฉียบคมของคลาวดิโอ แมนโทวานี คุณสามารถประจักษ์ได้จากสมรรถนะของนักกรีฑาอาชีพในการแข่งขัน และคุณสามารถสัมผัสได้จากความรู้สึกเมื่อได้สวมใส่ตลอดทุกความท้าทายในทุกเส้นทางการปั่นจักรยาน
