The Chasing of Sarto Dinamica/Test Ride at Kao-Yai National park, Thailand.(ตอนที่1)

โดย คุณรดิส สุทธิสุนทร (ปลา) แห่งกลุ่ม Dramatical Riders

ปัจจุบันคุณปลาทำงานในตำเเหน่ง Asst. Production Director อยู่ที่ บ. ไดอิจิ คิคากุ, ประเทศไทยและยังสนใจ ศึกษาค้นคว้าจักรยานประเภทถนนในเเบรนด์ต่างๆอีกด้วยครับ

ผมได้รับโอกาสดีดี จากพี่บิ๊ก ผจก. บ. ไซ-แอม ไบค์ ตัวแทนจำหน่ายจักรยาน Handmade จากอิตาลีแบรนด์ Sarto Antonio ให้ลองเอารถจักรยาน Sarto Antonio รุ่น Dinamica มาลองปั่นขึ้นเขาใหญ่ดูนะครับ ก่อนอื่นขอเท้าความเดิมก่อนนะครับ บ่ายวันหนึ่งเมื่อเดือนก่อน ผมกำลังหงุดหงิดที่คิดงานไม่ค่อยออกเลยกดเปิด Facebook พลันสายตาไปเจอะกับภาพ Share จาก Intagram หนึ่งของ official profile ของ Sarto Antonio ที่ Share มาโดยน้องก๊องแห่ง Ducking Tiger ผมก็เกิดความประทับใจแรกกับเจ้าหนูนี่ทันที ผมตาม link ที่น้องก๊องแชร์ไปยันต้นทางแล้วเหลือบไปเห็น “hashtag” ว่า #SartoDinamica ผมก็เลยไป search หาเว็บไซต์ของ Sarto Antonio ต่อ ก็ไปเจอะเข้าแหละครับ ปาดหัวมาเลยว่าเป็น handmade bikes และ custom bikes ผมก็เข้าไปนั่งส่องดูทุกอณูเว็บว่ามีจักรยานรุ่นไหนบ้างที่พ่อลูก Sarto นั้นผลิต แต่สุดท้ายตัวที่สะกดสายตาผมมากที่สุดก็คือ เจ้า Dinamica นี่แหละครับ — วิญญาณเนิร์ดในตัวเริ่มกำเริบ ... ผมเริ่ม search หาข้อมูลรีวิวตามบอร์ดฝรั่งมังค่า ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะ community นักปั่นโซนออสเตรเลีย หรือ community นักปั่นตามเว็บบอร์ดยอดนิยมของอเมริกาต่างๆ ได้ความว่า เจ้านี่เป็น allrouder สมคุณบัติที่โฆษณาในเว็บไว้ คือ ผมพยายามอ่านที่ 2 กลุ่ม community นี้เพราะเพื่อนๆ พี่ๆ จะบอกว่า ฝรั่ง 2 กลุ่มประเทศนี้จะชอบรถ allrouder กันมากกว่า รถที่มี Character ชัดเจนแบบพวก pro ใช้หรือทำขายในตลาด ส่วนใหญ่คนทั่วๆ ไปมือสมัครเล่นอย่างพวกเรา หรือ พวกแข่งนิดๆ หน่อยๆ ของฝั่งเขาจะใช้ allrouder กันเป็นส่วนใหญ่ ตามความคิดผมคือ มันน่าจะมีประโยชน์มากๆ พอสมควรครับ

หลายๆ review พูดเรื่องความเสถียรและการตอบสนอง บอกว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและความสบาย “Comfortable” อยู่ในเกณฑ์ดีมาก อันนี้ผมรวมๆ แล้วสรุปมาจากหลายๆ เว็บด้วยความพยายามที่จะหาข้อมูลของผมน่ะนะครับ มีที่ใช้แล้วขายเหมือนกัน ... ก็จะให้ comment แบบไม่ใช่ style ฉันอีกต่อไปแล้ว มันไม่ตอบโจทย์มากกว่าเลยขาย ไม่ใช่เพราะไม่ดี ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีอะไร negative มีแต่คนบอกต่อ หรือเอาไปเปรียบเทียบกับเฟรม mainstream ยี่ห้อดังต่างๆ — ส่วนตัวผมเองนั้น รูปลักษณ์ที่ผมเห็นผมคิดในใจว่ามันคงจะเหมือน R3 / R5 ของ Cervélo ผมละสายตาจากการหาข้อมูลรีวิวและพูดคุยกับหนุ่ม กลับไปส่องเว็บอีกรอบพลันสายตาไปเห็น list ของตัวแทนจำหน่าย ... อ้าวเฮ้ย! มีคนไทยด้วย!!! และแน่นอนมีชื่อร้านและเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้แต่ เอ๋ ... ทำไมผมไม่เคยได้ยินหรือเห็นชื่อร้านนี้จากที่ไหนมาก่อนเลยฟะ ... ผมส่ง link ต่อไปใน chat ของทีมและให้คนที่ว่างโทรเช็ค ... ผมลุกไป ขาย solution งานกลับมาจากนั้น 2 ชม. ได้ความว่า ร้าน CYCAM BIKE กำลังจะเปิดครับเราไม่ได้บอกใคร แต่พวกคุณหาเราเจอได้ยังไง? ของมีนะ ถ้าอยากมาดูนัดวันกันมาก็ได้ ... เราก็เลยตกลงนัดกันไปพบพี่บิ๊กถึงถิ่นกันเลยครับ

ที่ HQ ของ CYCAM มีรถตัวอย่างจำนวนหนึ่ง สินค้าอื่นๆ ที่ CYCAM นำเข้ามาขายอีกหลายแบรนด์อยู่จำนวนหนึ่ง พี่บิ๊กเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ สูงๆ ปั๊กๆ ล่ำๆ ใจดีเฮฮามีมุขตลกและ trick การฝึกจักรยานแบบเข้าใจง่ายๆ เป็นภาษา artๆ คุยกับพวกเราอย่างเป็นกันเองและเอารถมาให้พวกเราลองขี่กันครับ เราลองหมดตั้งแต่ LITESPEED ยัน SARTO ผมได้เห็นเจ้าหนูนี่ตัวจริงหนแรก ผมก็โคตรประทับใจกับ details งานไม่ว่าจะเป็นการทำเฟรมการทำสี การวางองศาต่างๆ มันช่างสวยงามน่าหลงใหล พี่บิ๊กบอกว่าให้เอาไปลองปั่นลองขย่ม ลองกดได้เต็มที่ จะได้รู้ว่าโอเคหรือไม่โอเค พร้อมกับแลกเปลี่ยนความรู้ มุขตลกแนวคิดต่างๆ มากมายและในที่สุดผมก็ขอทดสอบแบบจริงๆ จังๆ จนได้เพราะผมเริ่มสนใจเจ้าหนูนี่มากขึ้นเสียแล้วซี ...

Sarto Dinamica นั้นเป็นรถที่ออกแบบมาเป็น allrouder ตัว Sarto เองนั้นเคลมว่ามันเป็นรถที่ใช้ได้ทั้ง Criterium, Road Race และ Grand Frondo ภาษาง่ายๆ คือ “รถครึ่งๆ กลางๆ” กลับไปที่โจทย์ของผมก่อนตัวผมเองนั้นโดยหน้าที่และจริตส่วนตัวเองแล้วนั้นผมชอบและเลือกที่จะเป็นคนลากเพื่อนๆ เสมอ อีกอย่างหนึ่งคือ ผมมักจะถูกทิ้ง หรือต้องปั่นไปนั่นไปนี่คนเดียวแล้วก็มีคนมาตามดูด ... เสียส่วนใหญ่ แล้วสิ่งที่จินตนาการไว้ก่อนที่จะเป็นเจ้าของ VENGE นั้น คือเข้าใจว่าเสือหมอบแอโร่ว มันต้องไหลเหมือน Fixed Gear เกือบทุกอันแหละ ... ปรากฏว่าผมคิดผิดมหันต์เลย ถ้าจำได้ผมเคยเล่าเรื่องคุณสมบัติของ VENGE ไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ว่าถ้าคุณชอบหมก ชอบกดกระชาก ยิงหน้าเส้น VENGE เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณเลย เวลาหมกกลุ่มคุณใช้แรงน้อยลงจริงๆ ตามที่ Specialized เคลมผมรับประกันครับ แต่ตอนลากนี่ฝันร้ายหน่อยนะถ้าคุณฟิตไม่พอ แล้วเกิดหมดกลางคัน ผมหมายถึงไม่สามารถลากต่อ และไม่สามารถเกาะกลุ่มต่อ สำหรับผมแล้วผมเจอสิ่งนี้ที่งานแข่งที่ชัยนาท 8 กม. สุดท้ายหนังชีวิตมากๆ ผมเลยคิดๆ มองๆ ว่าเออจะพอมีอะไรที่มันเป็น allrouder แล้วมันน่าตาไม่โบราณจนมันไม่เข้ากับบุคคลิกทางกายภาพของผม ... ผมเป็นคนออกไปทาง Punk ที่ดูจะมีระเบียบกับชีวิต อะไรประมาณนี้ ... ซึ่งถ้าจะเป็นทรง classic อย่าง R3/R5, Supersix หรือ Émoda มันคงไม่ใช่ผมแน่ๆ ก็เลยมาเห็นเจ้าหนูนี่แหละครับ

ในที่สุดพี่บิ๊กก็อนุญาตให้ผมได้ทดสอบครับ ไปลองไต่เขา จริงๆ แล้วพวกผมจะไปกันนี่แหละครับแล้วลองชวนแก แกก็บอกว่าเออๆ พี่กำลังจะไปพอดีเลย ผมก็เลยโอเคขอติดไปด้วยขอพาเพื่อนๆ ดราม่าไปด้วย ขออนุญาตทดสอบรถด้วย พี่บิ๊กจัดแจงรถให้ผมแบบเต็มคราบเหมือนกันครับ ชุดขับ Ultrega Di2, เบาะ ASTUTE และ ชุดล้ออลูมินั่ม OSEOUS วันนี้ผมได้วอร์มนิดหน่อยเนื่องจากมาช้าเพราะหลงทางกันไปนิด ... เป็นปกติของดราม่าต้องมีอะไรดราม่า ดราม่า น่ะนะครับ ได้วอร์มนิดเดียวแล้วก็เริ่ม “ไต่” กันเลย ผมขอไล่ลำดับไปเลยก็แล้วกันนะครับ ปล. การทดสอบนี้ผมนอน 4 ชม. แล้วตื่นมาซัดนะครับ หัวใจและการหายใจค่อนข้างจะแกว่งมากวันนี้ พูดภาษาง่ายๆ คือ หอบ / เหนื่อยไวมาก

ความสติฟ — ผมพยายามจะกดทุกอย่างเพื่อทดสอบอย่างสุดกำลังที่ผมจะมีน่ะนะครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าล้อ OSEOUS Commuter ตัวนี้ช่วยได้มากระดับนึงเลยครับ นิ่ง แข็ง แต่ไม่กระด้างและแน่นอน Dinamica นั้นผมลองย่ำไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกถึงการส่งแรงที่ทำได้ดี แน่น และ support ถ้าเป็น VENGE นั้นจะแน่นเหมือนกันแต่แข็งเป๊ก support ในที่นี้คือ จะมีความรู้สึกว่าเฟรมมีแรงเหมือนแรงสปริงช่วยให้เรานวดขากดแรงส่งแรงได้เรื่อยๆ อย่างมีประสิทธิภาพครับ บางจังหวะที่ต้องเค้นหนักๆ ... ผมเป็นคนตัวหนัก ผมหนักกลับขึ้นมา 7 กก. ตอนนี้ 87 กก. ครับ ตอนที่ใช้ VENGE ขึ้นเขานั้นจะมีบ้างที่เค้นแรงๆ ลงไปแล้วจะรู้สึกว่าเฟรมให้ตัวลงไป นานๆ จะเกิดนะครับแต่ผมจับจังหวะได้ถ้าเป็นจังหวะที่ผมต้องทิ้งลงไปทั้งตัวเค้นสุดแรง ตอนนั้นแหละครับ แต่กับเจ้า Dinamica นั้นไม่มี ที่สำคัญรู้สึกได้ว่าใช้แรงน้อยลงจริงๆ ครับ (ไม่ได้อนุมานนะครับ) ผมสังเกตที่กล้ามเนื้อผมนะครับ

ความสบาย — ความสบายในที่นี้ ผมหมายถึงเรื่องการกระจายแรงกระแทกที่เกิดจากพื้นถนนหรือบนเส้นทางที่ปั่นนะครับ สำหรับ Dinamica นั้นความรู้สึกคือ ซับแรงกระแทกจากถนนได้ดีกว่า VENGE ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเฟรมมันไม่ได้ให้ตัวเลยนะครับ คือรู้สึกนุ่มสบาย 100% ผมให้ Propel 68% VENGE และ F8 70% ส่วน Dinamica นั้นผมให้อยู่ที่ 80% ครับ

ความเสถียร — ตรงนี้ผมยังตอบไม่ได้ในส่วนทางเรียบนะครับ อาจจะต้องรอขออนุญาตพี่บิ๊กทดสอบทางเรียบอีกหนนึงแล้วมาเล่าให้ฟังต่อ ส่วนในเรื่องของการขึ้นเขานั้น ความเสถียรสำหรับการส่งแรงนั้นก็คงจะเหมือนที่ได้อธิบายไว้ในหัวข้อเรื่องความสติฟครับ ว่ารถแข็งและแน่นมาก แต่กดได้เรื่อยๆ มีแรง support ตรงนี้น่าจะเป็นหางปลาที่ทาง Sarto เองหยิบออกมาขายเลยว่าเป็น highlight ของ Dinamica ที่ช่วยเรื่องการกระจายแรงกระแทกและการส่งแรงนะครับ สำหรับการลงเขาอันนี้ชัดเจนมากๆ นะครับ เวลาที่ผมดิ่งลงเขานั้น VENGE ที่ความเร็วแตะ 55 กม./ชม. ขึ้นไปนั้นรถจะเริ่มคลอน ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะล้อ 50mm ประกอบด้วยก็ได้ ต้องกดหน้ารถเอาไว้นะครับไม่ให้สะบัดและ VENGE นั้นจะทำให้เรารู้สึกเบามากๆ เวลาลงเขาแต่ Max ที่ผมทำได้ที่นี่คือ 67 กม. ต่อชม. นะครับ ส่วน Dinamica นั้นผมนั่งจับ dropbar (ด้านล่าง) ท่าปกติไม่ต้องโน้มตัวมากนัก ก็ไหลไปได้เรื่อยๆ คือ ต้องอธิบายว่าอย่างไรดี คือ Dinamica คงแรงเฉื่อยไว้ในเฟรมได้ดีกว่าครับ แต่ VENGE นั้นคงแรงไว้ในเฟรมได้น้อย เนื่องด้วยอาจจะออกแบบมาให้กดกระชากได้ทันใจไวมากๆ ด้วยกระมัง ผมปล่อย Dinamica ให้ค่อยๆ ไหลลงมาจับได้ว่า จะมาช้าหน่อย ไม่ทัน VENGE แต่พอมาแล้วมายาวๆ ครับผมลงเขามาที่ 75 กม. / ชม. วันนี้ แบบที่ไม่รู้สึกว่า ฉันจะบิน ... ตรงนี้ผมยังไม่ฟันธงนะครับเพราะวันนี้ใช้ล้อขอบต่ำ แต่เรื่องลมกระแทกระหว่างที่ลงแล้วสะบัดไหม Dinamica ไม่สะบัดเท่า VENGE ครับผม และที่ความเร็ว max speed ใหม่ตอนลงเขาที่ทำได้วันนี้น่าจะเป็นเรื่องของการเก็บแรงเฉื่อยของตัวเฟรมอีกด้วย ในส่วนของความเสถียรนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากๆ ครับ โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งจะรู้สึกว่า “หนึบ” จริงๆ คือ กดแล้วเอาอยู่ ไหลส่งอีกด้วย ลม cross wind มาตอนแทงโค้งด้วยความเร็วสูงขณะลงเขาก็ไม่ค่อยสบัด คือ สบัดก็น้อยมาก ไม่ค่อยอมลมเท่าไหร่ครับ เดี๋ยวหนหน้าผมจะลองทดสอบกับทางราบแล้วจะมาอธิบายต่อในครั้งต่อไปครับ

เบาะ ASTUTE — สำหรับเบาะตัวนี้ขอรีวิวว่า ครั้งแรกที่เห็นรูปทรงแล้วผมรู้สึกว่า เห้ยมันต้องก๊องแก๊ง ก๋องแก๋งแน่เลยแลดูพลาสติกยังไม่รู้ ... แถมปีกกว้างอีกต่างหากน่าจะเน้น comfortable เป็นหลักแต่ไม่เลยจ้าาา พอขึ้นนั่งแล้วปั่นไปราวๆ 20 กม. แรกนั้นผมรู้สึกว่า ... มันแข็งจังวะ ... ตายแน่กูจะรอดจนจบทริปไหม พอผ่านไปแล้วเหมือนเบาะเริ่มเข้าใจเรา ... ไม่ใช่ครับ โฟมมันเริ่มกระจายเข้าตรูด ... มันรู้สึกสบายมากเลยไม่ค่อยกดทับหรือแซะไข่เราให้ไหลลงร่องเบาะ แถมสติฟด้วยนั่งแล้วกดลงไปรู้สึกเลยว่ารางไม่ค่อยโย้ตัวจนเรารู้สึกว่ามันให้ตัวแล้วแรงกดเราเสีย หรือ ตำแหน่งสะโพกตอนกดเราเขยื้อนยวบขึ้นลงมากนัก ผมว่าฟินตูดและนั่งได้นานครับ ทำให้ผมเริ่มสนใจลาย Camo ขึ้นมาทันที

ชุดล้อ อลูมินั่ม OSEOUS (โอซีอัส,All-See-Us) — จากที่ได้ผ่านล้อมาความรู้สึกของดุมนั้นลื่นไหลเหมือน zipp ผมได้กลิ่นเจือจางของมันเต็มๆ แต่มันรู้สึกเบาๆ ลอยๆ กว่าแต่ไม่น่าเชื่อว่ามันค่อนข้างแข็งเลยทีเดียว ยิ่งจังหวะที่เค้นแรงๆ โยกโขกๆ ขึ้นเนินโหดๆ แล้วรู้สึกได้เลยว่ากว่าจะทำให้มัน “ให้ตัว” ได้นี่ก็ต้องแรงเยอะๆ มากมาก อยู่เหมือนกันนะ ผมว่ามันส์ดีครับ ฝรึบ ฝรึบ เสียงเวลากด สะใจ ... ส่วนเรื่องความลื่นและทนทานนั้น วันนี้มีจังหวะที่ bunny hop อยู่ 3-4 ครั้ง จะรู้สึกเลยว่าล้อและดุมนิ่งมากๆ ครับ ไม่ค่อยให้ตัวเท่าไหร่ ผมหนัก 87 กก. นะครับ เป็นล้อที่ดีสำหรับการซ้อม ถ้าใครคิดว่าน่าลองน่าใช้ก็ลองรับไว้พิจารณาดูนะครับ

สรุป — โดยรวมแล้วขึ้นเขา เต็ม 10 คะแนน ผมให้ที่ 8.5 ครับ (ความรู้สึกผมนะ อย่าเอาไปตั้งเป็นบรรทัดฐาน ลองช่างใจและพิจารณาดูนะครับ มีความเห็นอื่นๆ หรือแย้ง อยาก share ก็ ลองพูดคุยกันนะครับ) สำหรับผมแล้วความเด่นของ Dinamica คือเรื่องของความ “เสถียร” ครับ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกโอเคมากๆ เพราะผม “control” ได้และมันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยครับ แต่กับ VENGE นั้นเวลาเทโค้งคมๆ ถ้าเจอลม cross wind ผมจะหลอนมากเพราะนางจะสะบัดนิดๆ (แต่ VENGE เวลาอยู่กลางกลุ่ม หรือปั่น

ทางราบตรงๆ แล้วลมมากระแทกข้างจะไม่อมลมเลยนะครับ ถ้าลมไม่แรงแบบ 20++ กม./ชม. ขึ้นไป)

วันนี้ผมต้องขอขอบคุณ พี่บิ๊ก น้องอู๋ น้องนัมและทีมงาน CYCAM ท่านอื่นๆ มากๆ ด้วยนะครับที่ให้ความอนุเคราะห์และไว้วางใจให้เขียนรายงานความรู้สึก (รีวิว) ให้อ่านดูแบบตรงไปตรงมา ที่สำคัญขอบพระคุณที่พี่บิ๊กสอนและ share เทคนิคที่พี่บิ๊กฝึกให้พวกเราด้วยครับ ขอบคุณพี่น้องดราม่าด้วยครับที่ไปเป็นเพื่อนกันตลอดทางวันนี้ สนุกมากครับ